มิติใหม่ในการศึกษา ที่พัฒนาได้จริง
รับสมัครนักศึกษาปริญญาตรี-ปริญญาโทและปริญญาตรีภาคพิเศษ
เปิดวิชั่นการศึกษาโทร.
โครงการพิเศษ หลักสูตรปริญญาตรี (B.B.A.) สถาบันรัชต์ภาคย์
สถาบันรัชต์ภาคย์เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ามหาวิทยาลัยของรัฐทุกประการ เปิดดำเนินการเรียนการสอน ในสาขาวิชาต่างๆ มากว่า 20 ปี ได้แก่ บริหารธุรกิจ วิศวกรรมศาสตร์ การศึกษา ศิลปศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันรัชต์ภาคย์เน้นหนักวิชาการระดับสูง ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท มีจุดมุ่งหมายในการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ก้าวหน้าทันสมัยเป็นพลเมืองดีมีคุณธรรมสูงและมีความบริบูรณ์แห่งตน
-
การศึกษาในระดับปริญญาตรี เป็นการศึกษาที่มุ่งพัฒนา "ความรู้ ความสามารถ และทักษะ" ทางวิชาการและทางปฏิบัติที่จำเป็นต่อการนำไปใช้ในการทำงาน และการดำเนินชีวิต เสริมด้วยการสร้างจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม ตามหลักการ "สร้างความรู้ คู่คุณธรรม นำไปใช้เป็น" พร้อมกับกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้สู่โลกกว้างด้วยกิจกรรมเสริมที่สำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพ
หลักสูตรปริญญาตรี (B.B.A.)
มีวิชาที่น่าสนใจศึกษา 43 วิชา รวม 129 หน่วยกิต โดยแบ่งภาคการศึกษา (เทอม) ออกเป็น 6 ภาคการศึกษาปกติ กับอีก 1 ภาคฤดูร้อน (Summer) ใน 1 ภาคการศึกษา ลงทะเบียนได้ไม่เกิน 7 วิชา หรือ 21 หน่วยกิต ส่วนต้องเรียนวิชาอะไรบ้าง จะทราบจากคู่มือในวันสมัครเข้าศึกษา
รายวิชาที่ศึกษาในระดับปริญญาตรี (B.B.A.) มี 43 วิชา จำนวน 129 หน่วยกิต ประกอบด้วย
1. หมวดวิชาศึกษาทั่วไป 4 หมวด รวม 33 หน่วยกิต
1.1 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 6 หน่วยกิต
BC 101 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
SC 101 พื้นฐานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
1.2 กลุ่มวิชาภาษา 15 หน่วยกิต
ENGL 101 ภาษาอังกฤษ 1
ENGL 102 ภาษาอังกฤษ 2
ENGL 201 การอ่านภาษาอังกฤษ
ENGL 202 การเขียนภาษาอังกฤษ
THAI 101 การใช้ภาษาไทย
1.3 กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ 6 หน่วยกิต
LAW 101 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฏหมายธุรกิจ
SOC 255 จรรยาบรรณทางธุรกิจ
1.4 กลุ่มวิชามนุษย์ศาสตร์ 6 หน่วยกิต
HE 201 การพัฒนาสุขภาพ
RC 330 การพัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้
2. หมวดวิชาเฉพาะด้าน ประกอบด้วย 3 หมวด รวม 90 หน่วยกิต
2.1 กลุ่มวิชาแกนธุรกิจ 54 หน่วยกิต (ลงทะเบียนให้ครบทุกวิชา)
AC 101 หลักบัญชีขั้นต้น 1
EC 101 หลักเศรษฐศษสตร์เบื้องต้น
BA 102 คณิตศาสตร์ธุรกิจ
BA 203 การภาษีอากร 1
BA 205 บรรษัทภิบาล และจรรยาบรรณธุรกิจ
BA 206 กฏหมายธุรกิจ
BA 207 ประชาคมอาเซียน
BA 301 วิจัยธุรกิจ
EC 201 หลักเศรษฐศาสตร์
BC 312 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
EL 221 ภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ
FN 221 การเงินธุรกิจ
IM 201 หลักเบื้องต้นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
IM 202 สถิติธุรกิจ
IM 213 การจัดการดำเนินงาน
MG 201 หลักการจัดการ
MG 427 การจัดการเชิงกลยุทธ์
MK 201 หลักการตลาด
2.2 กลุ่มวิชาเอกบังคับ 30 หน่วยกิต (ลงทะเบียนให้ครบทุกวิชา)
AC 202 การบัญชีเพื่อการจัดการ
MG 311 การวางแผนธุรกิจ
MG 312 พฤติกรรมองค์การ
MG 313 ภาวะการเป็นผู้นำ และการจูงใจ
MG 321 การสื่อสารธุรกิจ
MG 323 การจัดการแรงงานสัมพันธ์
MG 325 การจัดการโลจิสติกส์
MG 411 การจัดการโครงการ
MG 421 การควบคุมเพื่อการจัดการ
MG 426 สัมมนาการจัดการ
2.3 กลุ่มวิชาเลือก 6 หน่วยกิต
MG 322 การจัดการธุรกิจขนาดย่อม
MG 412 การจัดการค่าจ้าง เงินเดือน และสวัสดิการ
3. หมวดวิชาเลือกเสรี 6 หน่วยกิต
SOC 112 สังคมกับการเป็นผู้นำ
SOC 101 เศรษฐกิจพอเพียง
รวมตลอดหลักสูตร เรียน 43 วิชา 129 หน่วยกิต
สถาบันรัชต์ภาคย์
RAJAPARK INSTITUTE
รับสมัครนักศึกษาเข้ารับการศึกษา
- หลักสูตรปริญญาโท (M.B.A.)
- หลักสูตรปริญญาตรี (B.B.A.)
- ปริญญาตรีภาคพิเศษ
สนใจสมัครเรียน-สอบถามรายละเอียด
โทร. 086-328-5338 เบอร์เดียว
ทำไมต้องเลือกเรียนที่นี่
การศึกษาที่เข้าเข้าถึงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
สนใจสมัครเรียน-สอบถามรายละเอียด
โทร. 086-328-5338
เบอร์เดียว
สามารถเลือกวันเรียนได้วันอาทิตย์ วันเสาร์ วันพฤหัส เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย
เรียนเพื่อปรับเงินเดือนเลื่อนตำแหน่ง เทียบโอนได้ เรียนทีละวิชาแล้วสอบสะดวกง่ายกว่า
มีอาจารย์ที่ปรึกษา(TA) แนะแนวติวเทคนิคเรียนจบเร็วได้อย่างมั่นใจ เทียบโอนได้จบเร็วกว่า
ได้กลุ่มเครือข่ายสังคมเพื่อน นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ข้าราชการ ครู พยาบาล ทหาร ตำรวจ นักการเมือง ฯลฯ
ไม่จำกัดอายุเหมาะสำหรับผู้ใหญ่ คนทำงานจนถึงเกษียณแล้วได้มาเรียนเป็นจำนวนมาก
หลักสูตรรับรองโดยสภาวิชาชีพบัญชี สภาวิศวกรรม สกอ.,กพ. กระทรวง จบแล้วรับราชการได้ต่อป.โท-เอกได้
ทัศนะมุมมองของนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน (ปี 2563, Covid-19)
ชาณัฐตา พระสุรัตน์
ผู้บริหาร บริษัท ซัมมิทควีน ประเทศไทย จำกัด
จากการที่ได้เข้าศึกษาในสถาบันรัชต์ภาคย์ ทำให้ได้พัฒนาตนเองขึ้นไปอีกระดับหนึ่งในทุกๆด้าน ทั้งการวางตัว การแต่งกาย บุคลิคภาพ การพูด และการสื่อสารในการทำงาน โดยได้รับคำชื่นชมจากผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาน และยังได้รับการปรับเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์การอีกด้วย
สิ่งที่ได้รับจากการศึกษา จึงทำให้เกิดข้อคิดได้ว่า คนเราไม่ว่าจะมีต้นทุนเป็นอย่างไรก็ตาม หากเราได้รับการขัดเกลา หรือได้รับโอกาสทางการศึกษาที่สูงขึ้น มีใจมุ่งมั่น ใฝ่เรียนรู้ พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง คงไม่มีคำว่าสายหรือแก่เกินเรียน
ขอกราบขอบพระคุณอาจารย์พ่อ อาจารย์แม่ทางการศึกษาที่มอบโอกาสดี ๆ มีคุณค่าให้แก่ศิษย์
การศึกษาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
จิตติมา บาร์เรทท์
ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
การศึกษาในสถาบันรัชต์ภาคย์ นอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ตามรายวิชาที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแล้ว ยังได้รับความรู้เสริมในเชิงบริหารจัดการแนวนวัตกรรม (Innovative Management) จากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มากด้วยประสบการณ์อีกด้วย
เกี่ยวกับการเรียนการสอนท่านอาจารย์พูดย้ำเสมอว่า "ต้องทำเรื่องยากให้ง่าย และนำไปใช้เป็น" การศึกษาหาความรู้ที่ดิฉันได้รับจึงเป็นแบบ Step by step คือ "เป็นขั้นเป็นตอน ไม่วกวน ทำให้เข้าใจง่าย เมื่อเข้าใจง่ายก็ย่อมได้ความรู้ เมื่อมีความรู้ และนำความรู้นั้นมาทบทวนซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็เกิดเป็นทักษะ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในการประกอบธุรกิจการงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเสริม เพื่อให้เรากล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก ผลที่ได้รับจากกิจกรรมนี้ ทำให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิด และประสบการณ์ดี ๆ มีประโยชน์จากเพื่อน ๆ ที่มีศักยภาพต่างกันอย่างหลากหลาย
สิ่งสำคัญที่ได้รับนอกเหนือจาก "ความรู้ และปริญญา" เรายังมีเพื่อน ๆ ที่น่ารัก ที่ได้มอบมิตรภาพอันดีต่อกัน มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยความรักสามัคคี
ข้อคิดเพิ่มเติม
เราอาจจะหาความรู้ได้ด้วยตนเองจากหลาย ๆ แหล่ง แต่แหล่งอื่น ๆ ไม่มีสถาบันการศึกษารองรับ คือ "ไม่มีวุฒิปริญญา ซึ่งเป็นทรัพย์ล้ำค่าที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต" โอกาสจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเรามีโอกาสได้รับการศึกษาแบบเสมอภาค โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่จำกัดอายุ ชนชั้น ฐานะ เราจึงไม่ควรพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้
ความสำเร็จด้านการศึกษา เปรียบเสมือนการเติมเต็ม เหมือนการตามหาจิ๊กซอของชีวิตที่ยังขาดหายไป เกิดเป็นคนต้องไม่หยุดพัฒนา ดังที่อาจารย์กล่าวไว้เสมอ ว่า “พัฒนาคน คนพัฒนาชาติ”
ขอบพระคุณคณาจารย์ทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทในการพัฒนาและเติมเต็มให้แก่ศิษย์ค่ะ
คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีใครแก่เกินเรียน" เป็นจริงเสมอ
จำนันท์ จางวางสาย (M.B.A.)
ผู้จัดการภาคบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด ประธานสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน
การที่ได้รับโอกาสจาก ท่านอาจารย์พ่อ และท่านอาจารย์แม่ เข้ามาศึกษาในรั้วสถาบันรัชต์ภาคย์แห่งนี้ ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตอีกครั้งหนึ่งในด้านการศึกษา เพราะการศึกษาถือเป็นพื้นฐานของการยอมรับทางสังคม การใช้ชีวิตอยู่ในสังคม การศึกษาจะเป็นเครื่องประทับตราว่าเราเป็นผู้ที่มีองค์ความรู้ ผ่านการเรียนการสอนจากผู้ที่มีองค์ความรู้ที่แท้จริง
ตอนนี้สิ่งที่ผมได้รับอย่างเป็นรูปธรรมจากการได้มาศึกษาที่สถาบันรัชต์ภาคย์ คือ -ความภาคภูมิใจในองค์ความรู้ที่ได้รับ -ความมั่นใจในการบริหารจัดการทรัพยากรและนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ -ตำแหน่งหน้าที่การงานที่ได้รับความไว้วางใจมากขึ้น -ความมั่นใจในบุคลิกภาพ และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
ที่ผ่านมามองซ้าย แลขวา คือ "การศึกษามีแต่อุปสรรค" แต่ในตอนนี้ ผมจะมุ่งไปข้างหน้า เพื่อเป้าหมายที่จะให้จบปริญญาโท และปริญญาเอกไปด้วยกัน
ขอใช้องค์ความรู้ที่ได้รับจากท่านหน้าจารย์พ่อ และท่านอาจารย์แม่ ในการพัฒนาตน พัฒนาคน พัฒนาสังคม และพัฒนาประเทศชาติในลำดับที่สูงขึ้นไป
ขอบพระคุณบุพการีทางการศึกษาทั้งสองท่าน
นกอินทรีมีปีกที่แข็งกล้า การศึกษาดีติดปีกให้เราปินสูง
กฤษรารัณ ป.รัตนาวิทย์
เจ้าหน้าที่ธนาคาร
"ลำธารนั้น แม้จะเล็ก ไม่กว้างใหญ่เหมือนแม่น้ำ แต่ถ้าหากมี "มังกร" อาศัยอยู่ ลำธารนั้นย่อมศักดิ์สิทธิ์
รั้ว ต้นพฤกษชาติ บ้านที่สมบูรณ์
*พ่อ...ทางการศึกษา มอบความรู้ เสริมปัญญา เสริมทักษะ ให้ศิษย์ได้ศึกษาวิชาที่ยาก...ให้เข้าใจง่าย
*แม่...ทางการศึกษา มอบความเมตตา มอบโอกาสทางการศึกษา นำพาลูก ๆ สำเร็จเป็นบัณฑิต มหาบัณฑิตได้อย่างองอาจ สง่างาม
*คณาจารย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้คัดกรอง บูรณาการบทเรียนเล่มหนา ๆ นำมาถ่ายทอดความรู้ให้ศิษย์ "ให้เข้าใจได้ง่าย ใช้งานได้จริง" อย่างยั่งยืนในชีวิตการทำงานการทำงาน
*ศิษย์ได้รับความรู้ที่แท้จริง ที่ได้พัฒนาตนด้วยการค้นหาความสามารถของตนเอง
*ศิษย์มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จจากสิ่งที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมา และยังนำความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดต่อเป็นวิทยาทานอีกด้วย
*ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาในสถาบันแห่งนี้ ได้รับมิตรภาพที่งดงามจากศิษย์พี่ และศิษย์น้อง เรามีความผูกพันกันด้วยใจอย่างแท้จริง
" ลำธารที่มีมังกรอาศัยอยู่ น้ำในลำธารนั้นย่อมศักดิ์สิทธิ์ และจะไหล...แบ่งปันน้ำศักดิ์สิทธิ์...ลงสู่แม่น้ำ และมหาสมุทร เพื่อชีวิตของสัตว์โลกต่อไป "
กัญญาภัทร กันธิยะ (หนุ่ย)
เจ้าของธุรกิจเครื่องแต่งกาย
ดิฉันเชื่อว่า ทุกคนปรารถนาที่จะมีการศึกษาสูง ๆ ด้วยกันทุกคน แต่ด้วยวิธีคิด โอกาส และสภาพแวดล้อมของแต่ละคนต่างกัน บางคนมีพร้อมหมดทุกอย่าง แต่ไม่อยากเรียน อันนี้ก็ติดที่วิธีคิด บางคนไม่มีพร้อมเอาเสียเลย ชีวิตลำบากยากแค้น แต่ก็ยังพยายามหาวิธีการที่จะส่งเสียตัวเองให้ได้ศึกษาเล่าเรียนจนสำเร็จ
ตัวดิฉันเองมีฝันมาตั้งแต่เด็กอยากจบปริญญาสวมชุดครุย แต่โอกาส และสภาพแวดล้อมไม่อำนวย แต่ด้วยวิธีคิด และมีเป้าหมายที่แน่วแน่มั่นคง จึงได้เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีในช่วงอายุมากแล้ว ในที่สุดดิฉันก็ได้สวมชุดครุยปริญญาอันทรงเกียรติ และปัจจุบันกำลังจะสำเร็จปริญญาโท
ตลอดระยะเวลาที่ได้เข้ามาศึกษาในสถาบันรัชต์ภาคย์ระดับปริญญาโท ขอยอมรับตามตรงว่า "อดที่จะมองย้อนกลับไปในอดีต" ไม่ได้ และมักจะถามตัวเองว่า "เราก้าวขึ้นมายืนจุดนี้ ในสังคมของคนมีการศึกษาดี" ได้อย่างไร เมื่อเกิดคำถาม ก็ต้องหาคำตอบ และคำตอบที่ได้ก็ คือ "ชีวิตของเรา เราลิขิตเอง" เราต้องการสิ่งใดก็ต้องทำสิ่งนั้นด้วยสติปัญญา และความทุ่มเทเราจึงจะได้มันมา ช้าบ้าง เร็วบ้างอาจต่างกันตามแรงผลักของความศรัทธาต่อสิ่งที่เราทำ
ขอให้ทุกท่านจงพยายามก้าวเดินไปให้ถึงฝันของท่านเองอย่างมานะอดทน ปริญญาและความสำเร็จกำลังรอท่านอยู่
ดิฉันและเพื่อน ๆ อีกหลายคนล้วนมีความโชคดีเป็นแรงเสริมที่ได้มาเป็นศิษย์ของท่าน อาจารย์พ่อ อาจารย์แม่ และได้รับความอนุเคราะห์จากท่านทั้งสองทั้งในด้านวิชาความรู้ อันเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจ และการดำเนินชีวิตของดิฉัน ส่วนประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน คือ "ทำให้ดิฉันได้ปรับวิทยะฐานะเป็นบัณฑิต และจะเป็นมหาบัณฑิต, มีภูมิความรู้ที่เป็นสากล, สามารถนำความรู้ที่ได้ในห้องเรียนไปสร้างระบบธุรกิจที่ทันสมัย และแตกไลน์เพิ่มขึ้น, ได้รับการยอมรับนับถือจากคู่ธุรกิจ ลูกค้า ลูกจ้าง และญาติมิตรเพิ่มขึ้น" ฯลฯ
ในโอกาสนี้ ศิษย์ขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ทั้งสอง คือ ท่าน ดร.ประภาสวัชร์ งามคณะ และท่าน ดร.สุจิตรา ตั้งใจ เป็นพิเศษที่คอยให้กำลังใจจนศิษย์ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในวันนี้
"ถ้าคนเรา มีสังคม มีความสามารถ และมีฐานะในระดับเดียวกัน ดิฉันเลือกที่จะสร้างความต่างด้วยการมีการศึกษาที่สูงขึ้น" และสถาบันที่จะตอบสนองศักยภาพทางการศึกษาได้ตรงจุด ตรงใจสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา คือ สถาบันรัชต์ภาคย์
จิรพัฒน์ ประทีป (M.B.A.)
ผู้จัดการอาวุโส บริษัท รักษาความปลอดภัย พีซีเอสและฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด
การศึกษาปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สถาบันรัชต์ภาคย์และกำลังศึกษาระดับปริญญาโท (M.B.A.)
***************************************
การที่ได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาต่อในระดับ ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ที่สถาบันรัชต์ภาคย์ แห่งนี้ ได้รับการแนะนาจากเพื่อนร่วมงานในองค์กรเดียวกัน
ตลอดระยะเวลาที่ได้เข้าเรียนในหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต และมหาบัณฑิต ได้รับความรู้ในภาคทฤษฎี ตลอดจนแนวคิดดี ๆ จากคณาจารย์ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นเรียน จนสามารถนำไปใช้ในการวางแผน การบริหารจัดการงานที่ทำอยู่ให้สัมฤทธิ์ผล ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีท่าน อาจารย์แม่ และ อาจารย์พ่อ ที่คอยช่วยให้คำแนะนาตลอดช่วงเวลาที่ได้ศึกษาในระดับ ปริญญาตรี และ ปริญญาโท
ในด้านการศึกษา คิดว่า "ชีวิต คือการเรียนรู้ และการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด" ความสาเร็จไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่มาจากความพยายาม ความขยันหมั่นเพียร ความเสียสละ และมาจากความรัก ความภาคภูมใจในสิ่งที่กำลังทำ หรือกำลังเรียนรู้
จงกล้าที่จะทำ เรียนรู้ในสิ่งที่เรารัก จงยิ้มรับ และเรียนรู้กับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน
ถ้าเราซื่อสัตย์ และทุ่มเทกับภารกิจที่เราทำ ผลลัพธ์ของมันย่อมออกมาคุ้มค่า
พัทธนันท์ ชมภูวัง (M.B.A.)
ผู้จัดการกลุ่มลูกค้าหลัก บริษัท รักษาความปลอดภัย พีซีเอสและฟาซิลิตี้ เซอร์วิสเซส จำกัด
ดิฉันได้รับโอกาสเข้ามาศึกษาในสถาบันรัชต์ภาคย์ ระดับปริญญาตรี เมื่อจบปริญญาตรี (B.B.A.) แล้ว ดิฉันก็ศึกษาต่อปริญญาโท (M.B.A.) อย่างต่อเนื่อง ก็ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่บริษัทที่ช่วยเปิดโอกาสแนะนำให้มาเรียนที่นี่
ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจของสถาบันแห่งนี้ ดิฉันได้รับการเพิ่มพูลความรู้ในทางทฤษฎี มีการนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ และทำ Workshop ในชั้นเรียน เพื่อเพิ่มทักษะในการนำความรู้ไปใช้ให้เหมาะกับงานที่ทำ
การเรียนการสอนที่นี่...อาจารย์ผู้สอนไม่ได้เป็นแค่เพียงผู้สอนเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่คอยให้การดูแลตั้งแต่ชั่วโมงแรกของการเรียนจนถึงวันจบการศึกษา เข้าพิธีรับปริญญา โดยเฉพาะท่าน "อาจารย์พ่อ และอาจารย์แม่" จะคอยเสริมสร้างคุณค่าให้นักแก่นักศึกษา ด้วยการอบรม ฝึกฝน และพัฒนา ให้พวกเรามีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้าน "ความรู้ ต้องคู่คุณธรรม รู้รักสามัคคี มีจิตสาธารณะ" โดยผ่านโครงการดี ๆ ที่ท่านทั้งสองก่อตั้งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น "โครงการพลังบัณฑิตคิดบวก โครงการทำบุญ มอบทุนการศึกษา" และกิจกรรมสร้างเสริมอื่น ๆ อีกหลายกิจกรรม
เมื่อได้ประมวลภาพรวมทั้งหมดแล้ว ถือว่า ดิฉันตัดสินใจได้ถูกต้องแล้ว ที่มาเรียนที่นี่...เพราะระบบการศึกษาของสถาบันฯ...ช่วยเติมเต็ม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้น ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งในด้านการทำงานและการดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นอย่างดี ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เราสามารถยิ้มรับกับทุกสถานการณ์ และทุกบทบาทในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี
คนที่มุ่งมั่นตั้งใจใฝ่ศึกษา คือคนที่พร้อมสร้างคุณค่า ให้ตัวเอง และครอบครัวอันเป็นที่รัก
"สนใจสมัครเรียนโปรด Click ที่เมนูติดต่อเราหรือติดต่อสมัครโดยตรงที่ โทร. 086-328-5338 เบอร์เดียว"
สถาบันรัชต์ภาคย์
RAJAPARK INSTITUTE
รับสมัครนักศึกษาเข้ารับการศึกษา
- หลักสูตรปริญญาโท (M.B.A.)
- หลักสูตรปริญญาตรี (B.B.A.)
- ปริญญาตรีภาคพิเศษ
สนใจสมัครเรียน-สอบถามรายละเอียด
โทร. 086-328-5338 เบอร์เดียว
เขตลาดกระบัง เป็นเขตการปกครองที่มีพื้นที่มากที่สุด
อยู่ในกลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก สภาพโดยทั่วไปเป็นท้องทุ่ง มีแหล่งชุมชนหนาแน่นทางทิศใต้และมีเขตนิคมอุตสาหกรรมทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่
ที่ตั้งและอาณาเขต
เขตลาดกระบังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานคร มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียง เรียงตามเข็มนาฬิกา ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับเขตมีนบุรีและเขตหนองจอก มีคลองลำนายโส คลองสองต้นนุ่น ลำรางคอวัง ลำรางศาลเจ้า คลองตาเสือ แนวคันนาผ่านถนนคุ้มเกล้า ลำรางตาทรัพย์ คลองบึงใหญ่ คลองลำกอไผ่ คลองลำมะขาม คลองลำพะอง คลองกระทุ่มล้ม คลองลำตาอิน และคลองลำตาแฝงเป็นเส้นแบ่งเขต
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา (จังหวัดฉะเชิงเทรา) มีคลองหลวงแพ่งและคลองประเวศบุรีรมย์เป็นเส้นแบ่งเขต
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง และอำเภอบางพลี (จังหวัดสมุทรปราการ) มีแนวแบ่งเขตการปกครองระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการเป็นเส้นแบ่งเขต
ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตประเวศและเขตสะพานสูง มีคลองตาพุก คลองแม่จันทร์ คลองบึงขวาง และคลองลาดบัวขาวเป็นเส้นแบ่งเขต
ประวัติศาสตร์
เดิมเขตลาดกระบังเป็นพื้นที่การปกครองของเมืองมีนบุรีซึ่งเป็นเมือง (จังหวัด) หนึ่งในมณฑลกรุงเทพ มีชื่อเรียกว่า อำเภอแสนแสบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอลาดกระบัง เพื่อให้ตรงกับชื่อตำบลที่ตั้งที่ว่าการอำเภอ[3] และในปี พ.ศ. 2474 จังหวัดมีนบุรีถูกยุบมารวมกับจังหวัดพระนคร อำเภอลาดกระบังจึงย้ายมาขึ้นกับจังหวัดพระนครด้วย
ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2481 กระทรวงมหาดไทยได้ยุบอำเภอลาดกระบังลงเป็น กิ่งอำเภอลาดกระบัง ขึ้นกับอำเภอมีนบุรี เนื่องจากในขณะนั้นมีปริมาณงานไม่มากนักและมีจำนวนประชากรน้อย จนกระทั่งในวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2500 จึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น อำเภอลาดกระบัง อีกครั้ง โดยได้โอนตำบลแสนแสบไปขึ้นกับอำเภอมีนบุรี และแบ่งพื้นที่บางส่วนของตำบลทับยาว มาจัดตั้งเป็นตำบลขุมทองในปี พ.ศ. 2504
ต่อมามีประกาศคณะปฏิวัติรวมจังหวัดพระนครกับจังหวัดธนบุรีเข้าด้วยกันเป็นนครหลวงกรุงเทพธนบุรีและเปลี่ยนรูปแบบเป็นกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2515 อำเภอลาดกระบังจึงเปลี่ยนแปลงฐานะเป็น เขตลาดกระบัง ตั้งแต่นั้น